Pentagram สาปรัก สลักวิญญาณ - นิยาย Pentagram สาปรัก สลักวิญญาณ : Dek-D.com - Writer
×

    Pentagram สาปรัก สลักวิญญาณ

    บางสิ่งที่ไม่ควรมีอยู่บนโลกมนุษย์กลับปรากฏตรงหน้า.. "ซาตาน" เลือดสองสีไหลหลั่ง..เกาะกุมเป็นหนึ่งเดียว กลายเป็นตราบาป ท้ายแล้วกฎเกณฑ์จะอยู่เหนือทุกสิ่งหรือยอมพ่ายแพ้ให้กับความรักของสองเผ่าพันธุ์..

    ผู้เข้าชมรวม

    110

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    110

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  แฟนตาซี
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  14 ธ.ค. 56 / 00:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    'เราห่างกันสักพักนะ..'
    '...'
    'ลูน่า'
    'เราเลิกกันเถอะ..'
    '..อืม'

    บทสนทนาก็จบไปตั้งนานแล้ว แต่ทำไมในหัวถึงยังคงได้ยิน 'เราเลิกกันเถอะ' ทั้งที่ฉันเป็นคนบอกเลิกเองทำไมต้องมาเสียใจ ทำไมนะ... นั้นสินะ ถ้าเอาเข้าจริงๆ แล้วฉันต่างหากที่โดนบอกเลิกก่อน ฉันต่างหากที่โดนทิ้งก่อน ตอนนี้ฉันเหมือนคนบ้าที่คอยแต่คิดถึงคนที่เขาไม่คิดจะกลับมาอีกแล้ว รู้ทั้งรู้ก็ยังเฝ้ารอ..แล้วสิ่งที่ได้รับกลับมาคือความว่างเปล่า

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงประตูดังขึ้นไม่กี่อึดใจก็มีเสียงหญิงวัยกลางคนเอ่ยตามมา
    "ลูน่าได้เวลาแล้วลูก"
    "ค่ะแม่"
    ฉันลูน่าที่แปลทางดาราศาสตร์ได้ว่าดวงจันทร์ หรือในตำนานปรำปราที่เรียกว่าเทพีแห่งดวงจันทร์ ฉันเคยถามแม่ว่าทำไมถึงตั้งชื่อนี้ แม่เลยบอกว่า
    'เพราะลูกเกิดตรงเดือนเพ็ญที่พระจันทร์สวยมาก แสงที่สาดส่องยังสว่างสไว..เหมือนที่แม่ได้เห็นหน้าลูกครั้งแรก' แล้วท่านก็ยิ้มจนแก้มปริ เมื่อผู้เป็นบุตรเห็นดังนั้นเลยไม่ซักไซ้ต่อ จริงๆ แล้วฉันป็นลูกครึ่งไทย-โปแลนด์ แม่เป็นคนไทย ส่วนปาป๊าเป็นชาวโปแลนด์และเป็นนักโบราณคดีที่ตะลอนๆ ไปทั่ว พวกเราแม่ลูกเลยต้องบินมาจากไทยเพราะว่า...
    'ปาป๊าอยากทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาทุกคน' แต่ไม่ใช่มีแค่เราแม่ลูกเท่านั้นแต่ที่นี้เป็นตระกูลใหญ่สมาชิกจึงมีมาก แต่เราแม่ลูกไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวมากนัก เพราะเมื่อคุณย่าท่านเสีย ที่นี่ก็ดูเปลี่ยนไปมากเหลือเกินโดยเฉพาะใจคน ฉันกับแม่ตกลงกันไว้แล้วว่าถ้าธุระเสร็จเมื่อไรพวกเราจะกลับทันที
    ภายในห้องรับแขกเต็มไปด้วยสมาชิกของบ้านหลังนี้ ทุกคนมากันครบยกเว้นปาป๊าของฉันที่ติดงานมาไม่ได้
    "ถ้ามาครบกันแล้ว เชิญเริ่มได้คุณจอห์น" คุณจอห์นที่เป็นทนายประจำตระกูลนี้ก็เริ่มดำเนินการของคนที่เป็นทนาย แล้วสิ่งที่เขานำออกมาจากกระเป๋าดำวาวนั้นคือพินัยกรรมของเจ้าของบ้านที่ได้เขียนไว้ก่อนจากไป สมบัติต่างๆ ถูกแบ่งอย่างเท่าเทียมและสมเหตุสมผลจนถึงครั้งของลูน่า สิ่งที่เธออึ้งไม่ใช่เพราะสมบัติที่ได้มากหรือน้อย เธอไม่คิดว่าตัวเองจะได้ด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่เธออึ้งคือคำพูดประโยคหลังของทนายมากกว่า

    "คุณนายเทียร่าได้ยกบ้านพักตากอากาศที่เมืองทอรูน ให้แก่บุตรสาวของนายเควินเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ทุกอย่าง หากวันใดที่บุตรสาวนายเควินไม่ต้องการก็จงเผาบ้านหลังนั้นทิ้งซะ..." นี่แหละ! ที่ทำให้อึ้ง ถ้าฉันไม่เอาก็ให้เผาทิ้ง บ้าบออะไรกัน!! ใครกล้าเผาทิ้งลงละ พร้อมกันนั้นก็มีเสียงกระซิบกระซากเกิดขึ้น แต่โทษเถอะฉันได้ยินนะ!

    'บ้านหลังนั้นหรอ...'
    'ใช่แล้วบ้านเก่าของคุณแม่ละ เห็นบอกว่าปล่อยทิ้งนานแล้วนะ'
    'น่าสงสารนะบ้านเก่าขนาดนั้น ..แต่ถ้าขายก็ได้ราคาดีอยู่หรอก'
    'เป็นฉันไม่ยอมหรอก...'

    เฮ้ย ฉันก็ไม่อยากได้ขนาดนั้นหรอกนะ แต่จะให้เผาทิ้งก็ไม่ได้ก็ไอ้บ้านที่พูดๆ กันอยู่เนี่ยใช่หลังนี้แน่หรือ!? บ้าไปแล้ว บ้าที่สุด! O[]O!! นี่มันคฤหาสน์ชัดๆ ถึงจะเก่าไปหน่อยแต่ถ้าทำความสะอาดครั้งใหญ่ก็คงกลับมาอลังการแน่นอน ถ้าตอนนี้คิดว่าทำไมถึงรู้นะหรอ ..หึ ก็ตอนนี้ฉันมายืนอยู่หน้าคฤหาสน์หลังนี้แล้วนะสิ



    ^^

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น